วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2556

รีวิว From Dusk Till Dawn (1996) : มหาโจร ปะทะ แวมไพร์ ในบาร์เหล้าของถิ่นคาวบอย ความคัลท์ที่คุณไม่ควรพลาด

สองโจรคู่พี่น้อง หลวงพ่อ แวมไพร์เด็กแว๊นซ์ และสิงห์รถบรรทุก เมื่อทั้งหมดนี้มารวมกันมันคือความมันส์ที่ลงตัวเหนือคำบรรยาย


นี่คือหนึ่งในหนังไตรภาคสุดเจ๋งของสองคู่หู โรเบิร์ต รอดริเกซ และ เควนติน ทาแรนติโน ที่สร้างผลงานมาทีไรได้ใจผมไปทุกที และกับเรื่องนี้ไม่ผิดหวังครับ เพราะมันสุดยอดพระเจ้าจอร์จเอามากๆครับ ฮ่าๆๆ
ผมยอมรับว่านี่เป็นหนังทุนต่ำแต่มีความไม่ธรรมดาแฝงเอาไว้มากมายโดยเฉพาะบทสนทนาที่ฉับไวและเสียดสีจิกกัดกันอย่างคมคายตลอดทั้งเรื่อง 


หนังเรื่องนี้ได้สุดยอดนักแสดงอย่างเฮีย George Clooney สมัยยังหนุ่มๆ มารับบท Seth Gecko โจรผู้พี่ที่มีความเป็นผู้นำอยู่เต็มเปี่ยม บทจะเยือกเย็นก็โคตรเยือกเย็น แต่เมื่อไหร่ที่อารมณ์ร้อนขึ้นมาแล้วล่ะก็...ใครก็หยุดไม่อยู่ครับ และ โจรผู้น้องนามว่า Richard Gecko ที่รับบทโดยเฮีย  Quentin Tarantino ที่เป็นผู้อำนวยการสร้างและเขียนบทหนังเรื่องนี้นั่นเอง เฮียแกเล่นได้ทั้งบ้าและทั้งโรคจิตดีจริงๆ เข้าถึงบทบาทโคตรๆ เอาแค่สองนักแสดงยังแข็งปั๋งขนาดนี้แล้ว เนื้อเรื่องยังโคตรแนวที่จับเอาสองพี่น้องมหาโจรมาปะทะเข้ากับแก๊งแวมไพร์โคตรแว๊นซ์ เอากับเขาสิ!!!


เนื้อเรื่องนั้นเริ่มต้นจากสองพี่น้องมหาโจรสุดอันตรายคู่นี้กำลังหนีกฎหมายและเตรียมมุ่งสู่ชายแดนเม็กซิโก ระหว่างทางสองพี่น้องคู่นี้ก็แวะระเบิดปั๊มไปเล่นๆเพื่ออารมณ์สุนทรีย์  หลังจากนั้นสองพี่น้องก็ตระเวณไปเรื่อยๆพลางทั้งคิดหารถและหาทางข้ามชายแดนเม็กซิโกไปให้ได้ และปิ๊ง!สองพี่น้องได้พบเจอเข้ากับครอบครัวๆหนึ่งซึ่งมีกันอยู่สามคน คือ อดีตบาทหลวง Jacob ผู้หมดศรัทธาในตัวพระเจ้า (รับบทโดยนักแสดงชายยอดฝีมืออย่าง Harvey Keitel ) เด็กสาวผู้มีแววตากร้าวแกร่งนามว่า Kate (รับบทโดย Juliette Lewis) และเด็กชายที่ดูติ๋มๆนามว่า Scott (รับบทโดย Ernest Liu) ทั้งสามคนถูกสองพี่น้องมหาโจรยึดรถบ้านไปอย่างหน้าตาเฉยพร้อมทั้งถูกจับเป็นตัวประกันเพื่อเดินทางข้ามชายแดนเม็กซิกันอีกด้วย ชั่วโมงแรกของหนังเต็มไปด้วยเรื่องราวอาชญากรรมราวกับหนังฟิล์มนัวร์ก็มิปาน ทั้งบทสนทนาที่ตอบโต้กันอย่างรวดเร็ว น่าสนใจ บรรยากาศแฝงไปด้วยความจริงจังปนกับตลกร้ายอยู่ในที ตลอดชั่วโมงแรกเป็นอย่างนี้จริงๆครับ คือดูแล้วต้องเป็นหนังแนวอาชญากรรมที่น่าสนใจอีกเรื่องแน่ๆ ทว่าผมโดนหลอกครับ!!! นี่คือหนังหักมุมครับ หักกันตอนกลางเรื่องนี่เลยทีเดียว และหักกันแบบเนียนๆแต่ไม่ไว้หน้าไหนทั้งสิ้นครับ....


เมื่อทั้งห้าคนสามารถข้ามชายแดนกันได้โดยสวัสดิภาพ เรื่องก็ดูเหมือนจะจบลงตรงนี้ครับ แต่ครับ แต่!! สองพี่น้องมหาโจรดันนัดไว้ว่าจะเจอกับเพื่อนตอนเช้าที่บาร์แห่งนี้ บาร์ที่มีชื่อว่า Titty Twister (อย่าแปลนะผมขอร้อง ฮ่าๆๆ) 
ทั้งห้าได้เข้าไปในบาร์แห่งนั้นเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ชิวๆกันตามประสาคนมาเที่ยว(ฮา) ระหว่างนั้นโจรผู้น้องก็หาตีนให้ทั้งห้าอยู่พลางๆเพื่อความสุนทรีย์ แล้วในที่สุดตีนก็มาหา และพอเลือดเริ่มนองคนทั้งบาร์ก็กลายสภาพเป็นแวมไพร์!!! 


แล้วเหตุการณ์ต่อจากนั้นคือการเอาตัวรอดของคนที่ (เป็นคนอยู่จริงๆ) อยู่ในบาร์นรกปะทะกับแวมไพร์สุดแว๊นซ์ ความมันส์แบบนรกแตกจึกทะลักจุดเดือดขึ้น พาร์ทหลังนี้เปลี่ยนเนื้อเรื่องจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ หักมุมกันแบบคนดูแทบตกเก้าอี้เพราะไม่คิดว่ามันเรื่องมันจะมาแนวนี้ พาร์ทแรกมาแนวเข้มข้น พาร์ทหลังนี่เอามันส์และโหดแบบไม่ยั้ง แขนขาหลุดกันกระจุย เลือดกระฉูดกันกระจาย มหาโจรที่ว่าแน่ยังต้องหงายเงิบเมื่อเจอกับแวมไพร์โคตรนรก แต่ทว่าฝั่งคนนั้นไม่ยอมแพ้ครับ พวกเขาขอสู้ สู้จนกว่าแสงแดดแห่งวันพรุ่งนี้จะมาถึง!


ทีเด็ดมันอยู่ตรงที่พวกเขางัดเอาลูกบ้าทั้งหลายที่มีอยู่ในตัวเข้ามาซัดกับพวกแวมไพร์ผีดิบพวกนี้ครับ แม้ว่าฝ่ายแวมไพร์จะมีพละกำลังที่โคตรโหด ความสามารถในการแปลงตัวเป็นค้างคาวได้ แต่ว่าฝ่ายมนุษย์นั้นแม่งโคตรของโคตรบ้าครับ เอาที่เจาะถนน ปืนฉีดน้ำ ไม้ แส้ ดินสอ หรือแม้กระทั่งถุงยาง มาสู้กับเหล่าแวมไพร์!!!  


เนื้อเรื่องที่เหลือไปดูต่อกันเองนะครับทุกคน อิอิ แต่หนังเรื่องนี้ใช่ว่าจะเด่นแต่เรื่องบ้าจนตัวละครดูไร้มิติ กลับกันทุกตัวละครต่างมีมิติความเป็นคน มีวาระที่บ้า หวาดกลัว สุข เศร้า ปนกันไป อีกทั้งยังไม่ใช่กลุ่มคนที่ไร้สมอง ทำให้เกิดทั้งมุมดราม่า มุมระทึก และยังทำให้เราเอาใจช่วยตัวละครทุกคน ความสนุกแบบครบรสก็บังเกิดสิครับทีนี้ ^^


นอกจากบทจะรสดีแล้ว นักแสดงทุกคนต่างช่วยชูรสให้หนังเรื่องนี้ถึงขีดยิ่งขึ้น นักแสดงทุกคนต่างขโมยซีนกันอย่างกระจุยกระจาย ทุกคนมีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง และทุกคนก็ขนความบ้าระห่ำกันอย่างมาเต็มพิกัดไม่ว่าบทจะมากจะน้อยเพียงใด แต่ที่สุดยอดและแหล่มสุดๆเลยคือคนนี้ครับ Salma Hayek สุดสวยที่รับบทราชินีแวมไพร์ Santanico Pandemonium  ซึ่งเธอแจ้งเกิดไปเต็มๆกับซีนในบาร์ครับ เป็นที่น่าจดจำมากๆสำหรับคอหนัง (ผู้ชาย เอิ๊กๆ ฮ่าๆๆ)


และแน่นอนครับดนตรีประกอบสไตล์เม็กซิกันนี่ได้ใจผมไปเต็ม บทจะเร้าอารมณ์ก็โคตรจะเร้า บทจะบ้าแบบนรกแตก ดนตรีก็บรรเลงอย่างบ้าคลั่งด้วยเช่นกัน ลองไปหาฟังเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ได้เลยนะครับ เป็นของวง "Tito & Tarantula" ชื่อเพลงว่า "After Dark" จังหวะ และท่วงทำนอง ไพเราะ พริ้วไหว ฟังแล้วกระตุ้นอารมณ์ดีนักครับ

นี่ครับผม MV นี้เลย




สรุปกันเลยนะครับ
เนื้อเรื่อง 9.5/10
นักแสดง 10/10
ดนตรีประกอบ 9/10
สรุปหนังเรื่องนี้ได้ไป 9.5/10 นะคร้าบบ สุดยอดจริงๆหนังเรื่องนี้ คอหนังห้ามพลาดครับผม







2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ7 สิงหาคม 2557 เวลา 08:07

    เสียงและภาพเป็นไงบ้างครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เสียงและภาพถือว่าสุดติ่งไปเลยครับในยุคนั้น แม้จะดูทุนต่ำเอามากๆ แต่ผมกลับชอบใจในความดิบของยุคนั้นดีแท้

      ลบ