จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสักวันหนึ่ง อวัยวะเทียมคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกคน และทุกชนชั้น
และจะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อคุณไม่สามารถผ่อนค่าอวัยวะเทียมได้!!!
นี่คือผลงานของผู้กำกับ Miguel Sapochnik ที่ชื่ออาจจะไม่คุ้นหูเท่าใดนัก แต่เขาคือผู้อยู่เบื้องหลัง(ในบางตอน)ของ Series สองเรื่องที่กำลังฮิตไม่ใช่น้อยอย่าง Under the Dome และ Banshee และผลงานครั้งนี้ของเขานั้น นับว่าค่อนข้างถูกใจผมไม่ใช่น้อย แม้ว่าจะได้คะแนนจากนักวิจารณ์ในระดับกลางๆ แต่ผมก็ยอมรับว่าหนังเรื่องนี้มีหลายจุดที่ถูกใจผมอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะด้านเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับอนาคตในแบบเสื่อมโทรม เทคโนโลยีอย่างอวัยวะเทียมที่ดูเป็นไปได้และอาจจะมีทางเกิดขึ้นจริงแบบในหนังได้สักวัน ดารานักแสดงที่แต่ละคนก็ท็อปฟอร์มทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น Jude Law เอย Forest Whitaker เอย Alice Braga เอย รวมถึง Liev Schreiber ที่โผล่มาแต่ละที่ก็โดดเด่นทุกครั้ง และที่กระแทกใจผมที่สุดคือการเสียดสีสังคมได้อย่างเจ็บแสบใช้ได้ ระหว่างคนรวยกับคนจน นายทุนกับประชาชนตาดำๆ
เนื้อเรื่องว่ากันง่ายๆครับไม่ซับซ้อนมาก แต่ก็ไม่โล่งโถงจนเกินไป เรื่องเริ่มจากในอนาคตอันใกล้นี้มีบริษัทเอกชนที่โคตะ-ระใหญ่รายหนึ่งชื่อว่า "The Union" ที่ทำหน้าที่จัดจำหน่ายอะไหล่สำหรับคน หรือที่เว้ากันซื่อๆนั่นก็คืออวัยวะเทียมครับ และสาเหตุที่ทำให้ The Union เป็นบริษัทเอกชนที่ใหญ่มาก นั่นก็คือ คนในอนาคตต้องการอวัยวะเทียมเป็นจำนวนมาก เพราะต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บางคนกินเหล้าเมายาจนตับไตหายกันไปข้างนึง และอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อเผาผลาญอวัยวะตัวเองเพิ่มอีก บางคนเป็นโรคร้าย จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้บริการจากอวัยวะเทียมของ The Union ทว่าอะไรๆมันก็คงไม่ง่ายดายและสบายขนาดนั้นเพราะว่าราคาค่างวดในการปลูกถ่ายอวัยวะเทียมต่างๆเหล่านี้ไม่ใช่ราคาที่คนทั่วไปจะสามารถจ่ายได้ จึงต้องเกิดการผ่อน และแน่นอนว่าดอกเบี้ยนั้นก็แสนโหด ผลที่ตามมาคือคนขาดส่งค่างวด และผลสุดท้ายคนเหล่านั้นก็ต้องถูกตามทวงคืนอวัยวะแบบถึงเลือดถึงเนื้อจากเหล่าเจ้าหน้าที่ของ The Union นามว่า Repo Men
เนื้อเรื่องดำเนินไปตามกิจวัตรประจำวันของหนึ่งในเจ้าหน้าที่ฝีมือดีของ Repo Men นามว่า Remy (Jude Law) เขาเป็นเจ้าหน้าที่ที่ฝีมือฉกาจและมีชีวิตในด้านการงานที่ยอดเยี่ยม แต่ทว่าชีวิตคู่ของเขาเริ่มง่อนแง่นเต็มทน เพราะภรรยาของเขาอยากให้เขามีชีวิตที่มั่นคง อยากให้เขาได้อยู่กับครอบครัวแบบพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างที่ครอบครัวๆหนึ่งควรจะเป็น นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขาต้องกลับมาคิดอย่างหนัก เขายังมีความรู้สึกที่อยากจะลุยไปกับคู่หูขาลุยของเขาอย่าง Jake (Forest Whitaker) Remy ไม่คิดว่าเขาจะสามารถไปทำงานนั่งโต๊ะอย่างใครๆได้ ไม่สามารถพูดโน้มน้าวให้ลูกค้าเลือกที่จะผ่อนอวัยวะเทียมได้ เขาไม่สามารถทำสิ่งแบบนี้ได้ แต่ในที่สุด Remy ก็ยอมตัดสินใจไม่รับข้อเสนอที่สุดแสนจะเย้ายวนจาก Frank (Liev Schreiber) Remy ตัดสินใจที่จะทำงานน้อยลง แต่ทว่าจู่ๆก็เกิดอุบัติเหตุจากงานชิ้นล่าสุดของเขา และอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ชีวิตของ Remy ต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล เปลี่ยนสถานะจากผู้ล่า กลายเป็นผู้ถูกล่า...
ในด้านเนื้อเรื่องขอเล่าแค่นี้ก่อนนะครับ ที่เหลือลองไปดูกัน สนุกครับ ถือว่าสนุกตามมาตรฐานของหนังแนวนี้เลย ดูไม่ยากไม่ง่ายจนเกินไป อาจจะมีบางฉากที่ดูตามสูตรบ้าง แต่ก็มีหลายฉากเลยทีเดียวที่ครีเอทกันมาได้ดีพอสมควร (โดยเฉพาะฉากที่ล้วงของลับกันตอนท้ายเรื่อง) ในด้านตัวบทถือว่าจับเอาของดีหลายๆอย่างจากหนังหลายๆเรื่องมารวมกัน ผลที่ได้ก็คือไม่เลวครับ อาจจะมีช่วงเนือยๆไปบ้างในช่วงกลางๆเรื่อง แต่พาร์ทท้ายๆของหนัง ตัวบทก็สามารถดึงความสนใจของผู้ชมขึ้นมาได้จนถึงจุดพีคเหมือนกันครับ
ด้านตัวละครนั้น ทุกตัวละครที่มีทำตามหน้าที่ของตนเองกันได้อย่างดีครับ Jude Law แสดงได้แบบไหลลื่นกับบทแนวนี้ ช่วงน่าสงสารก็น่าสงสารกันเต็มที่ ช่วงบู๊ก็เข้าถึงอารมณ์ แววตานี่สะท้อนความโหด นิ่ง และเยือกเย็นอย่างเห็นได้ชัด ดูไม่ใช่แนวพระเอกจ๋าจนเกินไป เป็นพระเอกที่มีความรู้สึกนึกคิดตามหลักคนธรรมดาดีครับ
ส่วน Forest Whitaker จอมบทบาทคนนี้ฝีมือไม่ตกครับ ทั้งแววตาท่าทางกินขาดจริงๆ กับบทที่เป็นทั้งที่รักและที่ชังในเวลาเดียวกัน อีกทั้งบทนี้ยังเป็นตัวแปรสำคัญของเรื่องอีกด้วย
ต่อมากับบท Beth ของ Alice Braga ผู้หญิงคนนี้มีความสำคัญไม่น้อยกับเนื้อเรื่องเลย เพราะว่าบทนี้ไม่ใช่บทประเภทผู้หญิงวิ่งกรี๊ดกร๊าดแต่อย่างใด แต่เป็นบทของหญิงสาวที่แกร่งจากภายใน ทำให้เธอเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าเอาใจช่วยเลยทีเดียว
และสุดท้ายกับบทนายทุนที่ปากหวานก้นเปรี้ยวอย่าง Frank ที่ได้นักแสดงมากบทบาทอย่าง Liev Schreiber มาแสดงเป็นนายทุนของ The Union ที่มีความกวนทีนเกินร้อย
เป็นนายทุนประเภทที่เราสามารถเจอได้จริงในปัจจุบัน คนพวกนี้นี่ร้ายกาจครับ ปากบอกทำเพื่อมนุษยธรรม ทำเพื่อความเจริญ แต่จริงๆแล้ว คนเหล่านี้มักจะต้องการกอบโกยเงินและผลประโยชน์จากประชาชนตาดำๆอยู่เสมอ โดยไม่สนศีลธรรมอันใดทั้งสิ้น ซึ่งบทนี้เฮีย Liev Schreiber แกทำได้เจ๋งจริง แววตาแบบกรุ้มกริ่ม เจ้าเล่ห์นิดๆ แต่แฝงไปด้วยความอันตรายแบบเต็มขั้น เข้าถึงบทบาทสุดๆครับ แม้จะโผล่มาน้อยแต่ได้ใจทุกครั้ง
ส่วนด้านดนตรีประกอบนั้นทำได้ดีตามมาตรฐานครับ อาจจะไม่ถึงขั้นมีทำนองติดหู แต่ฟังแล้วเข้าถึงอารมณ์ได้ดีครับ ช่วงดุดันก็ดุดัน ช่วงทีเล่นทีจริงดนตรีก็ดูมีลูกเล่น และแน่นอนครับฉากล้วงของลับนั้นดนตรีตรงนี้ทำหน้าที่ได้ดีมากๆเลยครับ ให้อารมณ์กึ่งอีโรติคกึ่งหลอนแบบพอดีๆ ลองไปฟังไปดูกันนะครับ
ปล.ฉากสุดท้ายที่ชายหาด ดนตรีนี่เล่นกับอารมณ์ได้ดีมากๆเช่นเดียวกันนะครับ ดูสดใสแต่ว่าแฝงอะไรไว้หลายๆอย่างครับ
ปล.สุดท้าย นวัตกรรมใหม่ของ The Union ที่เป็นอวัยวะเทียมอันล่าสุดนั้น (ขอไม่บอกนะครับ อันนั้นตัวสปอยล์เลย) เป็นจุดที่สามารถเอาไปคิดต่อยอดทำหนังได้หลายเรื่องจริงๆครับ ซึ่งคิดว่าความสามารถของอวัยวะเทียมชิ้นนี้ต้องได้รับอิทธิพลมาจากหนังเรื่อง The Matrix อย่างแน่นอน
สรุปกันเลยดีกว่า
เนื้อเรื่อง 8/10
นักแสดง 9/10
ดนตรีประกอบ 7/10
สรุปหนังเรื่องนี้ได้ไป 7.5 คะแนน คร้าบบผม ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น